วันศุกร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2556

แต่ถ้าอยากรู้ว่าทำไมผู้ใหญ่ถึงให้เด็กนักเรียนใส่เครื่องแบบ ก็ทนอ่านสักหน่อยก็แล้วกัน จะได้หายคาใจกัน

หัวข้อที่ 1 : ทำไมเด็กนักเรียนต้องใส่เครื่องแบบ


น่าคิด : ทั้งๆ ที่แม้ว่ากำลังแก้ผ้าเราก็เรียนได้ด้วยซ้ำ ไม่เห็นว่าเครื่องแบบจะเกี่ยวอะไรกับชีวิตการเรียนของเราเลย พูดกันตามตรง พวกผู้ใหญ่น่ะขี้บังคับเกินเหตุ มีตั้งเยอะที่ไม่ใส่เครื่องแบบเขาก็ยังเรียนกันได้ พวกฝรั่งเขาก็ใส่ไปรเวทไปเรียนกันนะ ไม่เกี่ยวว่าใส่เครื่องแบบหรือไม่ ดังนั้นจึงขอสรุปได้ว่า การใส่เครื่องแบบและข้อห้ามพวกนี้มันงี่เง่ามาก ไม่ช่วยให้การเรียนของเราดีขึ้นหรือด้อยลงเลย ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวของเราเองต่างหาก ปล่อยเราให้มีอิสระในเรื่องนี้จะดีกว่า เพราะเราจะอารมณ์ดี และเมื่อเราอารมณ์ดี เราจะอยากตั้งใจเรียนมากขึ้น การใส่ไปรเวททำให้สมองเราสดชื่น มีอิสระ หลุดออกจากกรอบ ฟังดูส่งเสริมการศึกษายิ่งกว่าการใส่เครื่องแบบเสียอีก

มุมมองอื่น : ขอถามกลับว่า เคยคิดกันบ้างไหมว่า ทำไมนักเรียนในประเทศไทยจึงต้องใส่เครื่องแบบ?

                คิดว่าพวกผู้ใหญ่ที่ตั้งระบบการศึกษา วันดีคืนดีเกิดนึกครึ้ม จึงบังคับให้เราใส่เครื่องแบบกันเหรอ? ไม่อยากให้เด็กหน้าตาดีกว่าตัวเอง เลยบังคับให้ตัดผมทรงทุเรศๆ แล้วก็ห้ามแต่งตัวอย่างนั้นเหรอ?      ทั้งๆ ที่ในยุคเริ่มต้นการศึกษา เด็กก็เรียนกันในวัด ใส่ชุดไปรเวทกันนี่แหละ ทำไมเวลาผ่านไปแล้วมันกลายเป็นเครื่องแบบไปได้
            คิดไม่ออกกันเหรอ? งั้นลองแบบนี้ดีไหม ถอยออกมาจากตัวเอง มาดูคนอื่นกันดีกว่า
เรา คิดว่าทำไมตำรวจจึงมีเครื่องแบบ ตำรวจไม่ต้องใส่เครื่องแบบก็จับคนร้ายได้ ทำไมหมอกับพยาบาลจึงมีเครื่องแบบ หมอใส่เสื้อแบบนักร้องเกาหลี ทำผมสีแดง เจาะลิ้นเจาะหู เขาก็รักษาเรา ผ่าตัดให้เราได้ จะว่ากันตามตรง ในโลกนี้ไม่มีเครื่องแบบเลยก็ยังได้
            เครื่องแบบคืออะไร เครื่องแบบมีไว้ทำไม ทำไมนักเรียนต้องใส่เครื่องแบบ?
เครื่องแบบไม่ใช่ของใส่เล่น สังเกตได้ว่าเมื่อเราใส่เครื่องแบบ เราไม่สามารถทำบางสิ่งได้อย่างสะดวกใจ เมื่อเราใส่เครื่องแบบนักเรียน เราไม่สามารถเข้าร้านเกมหรือเข้าเทคได้ ไม่สามารถซื้อบุหรี่ได้ เราต้องเปลี่ยนชุดเท่านั้นถึงจะทำเรื่องแบบนี้แล้วรู้สึกผิดน้อยลง
ดังนั้นอันดับแรก เครื่องแบบมีไว้เตือนใจถึงสถานะทางสังคมที่เรากำลังแบกรับ เมื่อสวมไว้บนร่างกาย เรารับรู้ได้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควร และรับรู้ได้ว่าหน้าที่ของเราคืออะไร เช่นเดียวกับอาชีพอื่นที่มีเครื่องแบบทั้งหลาย "ผมเป็นหมอ ผมแบกรับชีวิตคน ผมต้องใช้ความรู้ความสามารถอย่างเต็มที่ ไม่สามารถประมาทได้แม้แต่นิดเดียว" "ดิฉันเป็นเป็นพยาบาล ดิฉันเป็นผู้ช่วยหมอ แต่ดิฉันอยู่ในสังคมเพื่อปลอบโยนจิตใจคน ดูแลเอาใจใส่ เป็นกำลังใจให้ผู้ที่เจ็บป่วยและอำนวยให้การรักษาราบรื่น" "หนูเป็นนักเรียน หน้าที่ของหนูคือตั้งใจเล่าเรียน เพื่อวันหนึ่งหนูจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี เป็นกำลังของชาติ" หากไม่มีเครื่องแบบ ทุกคนจะทำอะไรอย่างไรก็ได้ คนๆ หนึ่งมีสถานะและบทบาททางสังคมที่หลากหลาย เราอาจเป็นนักเรียน ในขณะเดียวกันก็เป็นลูก เป็นเพื่อน เป็นพี่ ดังนั้นการใส่เครื่องแบบในเวลาเรียน มีไว้เพื่อเตือนให้ระลึกไว้ว่าขณะนี้เราเป็นนักเรียน
สังเกตได้อีกอย่างว่า อาชีพที่มีเครื่องแบบนั้นมักจะถูกผู้คนไหว้ เช่น หมอ พยาบาล ตำรวจ ครู ข้าราชการ ไม่สงสัยบ้างเหรอว่าทำไมไม่มีใครไหว้นักวิศวกร นักเคมี นักแสดง หรือคนขายของกันบ้าง นั่นเพราะอาชีพที่มีเครื่องแบบมักแบกภาระอะไรบางอย่างเอาไว้ ต้องใช้ใจ หรือใช้ความรับผิดชอบต่อผู้คนหรือสังคม


ที่จริงแล้วผู้ใหญ่นี่ล่ะที่ควรไหว้เรา เพราะอนาคตของชาติไม่ได้อยู่ที่ผู้ใหญ่...แต่อยู่ที่เราทุกคน เรามีภาระที่ใหญ่หลวง เราแบกประเทศเอาไว้ หน้าที่ของเรายิ่งใหญ่และน่านับถือยิ่งกว่าอาชีพอื่นที่มีเครื่องแบบตั้งเยอะ เพราะผู้ใหญ่ทุกคนเมื่อแก่ลงไปแล้วจะได้มีชีวิตที่มีความสุขหรือไม่ ล้วนฝากชะตากรรมไว้ในมือของเราทั้งสิ้น ติดก็เพียงแต่ว่าเรามีอายุน้อยกว่า จะให้ผู้ใหญ่ไหว้ มันก็ผิดจารีตที่ดีงามกันอยู่

ความสัมพันธ์ชายหญิงในระดับที่เหมาะสม เมื่ออายุ 45 ปีขึ้นไป
สิ่งที่อยากบอก จงภูมิใจที่ได้สวมเครื่องแบบนักเรียน เพราะนักเรียนเป็นทรัพยากรที่สูงค่าที่สุดในประเทศ การให้นักเรียนใส่เครื่องแบบนั้นไม่ได้ต้องการบังคับเพียงอย่างเดียว แต่มีเพื่อเชิดชูความสำคัญด้วย เช่นเดียวกับอาชีพอื่นที่สังคมเทิดทูนจนต้องยกมือไหว้

                                                            
เปรียบเทียบกับพวกฝรั่ง พื้นเพวัฒนธรรมของเขาไม่เหมือนของเรา สำหรับเขา จะใส่เครื่องแบบหรือไม่ หมอ พยาบาล ตำรวจ ครู ก็คืออาชีพหนึ่ง ไม่ได้ปรี่เข้าไปจับมือหรือไหว้อย่างซาบซึ้งเสียหน่อย พูดง่ายๆว่าเปรียบเทียบกันไม่ได้ เพราะคุณค่าของเครื่องแบบ และลักษณะหรือโครงสร้างทางสังคมของเขาก็ไม่เหมือนกับเรา แต่ไม่ลองไปถามเพื่อนที่เคยไปเรียนแลกเปลี่ยนบ้างเหรอ ว่าพวกฝรั่งเขาฉลาดกว่าเราจริงไหม 
รู้อย่างนี้แล้วจะลดคุณค่าของตัวเองโดยการละทิ้งการใส่เครื่องแบบอีกเหรอ หมอที่ไม่ใส่ชุดกราวด์ก็คล้ายว่าจะไม่ใช่หมอ ตำรวจที่ไม่ใส่ชุดตำรวจก็คล้ายว่าจะไม่ใช่ตำรวจ เครื่องแบบมาพร้อมความรับผิดชอบ และความรับผิดชอบมาพร้อมกับคุณค่าในสังคม เช่นเดียวกับที่ลุงของปีเตอร์ ปาร์คเกอร์กล่าวไว้ว่า พลังที่ยิ่งใหญ่ มาพร้อมกับภาระที่ใหญ่ยิ่ง